บริการตรวจการทำงานหัวใจ

ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) คืออะไร ? บอกอะไรได้บ้าง ค่าปกติเป็นเท่าไหร่

การตรวจคลื่นหัวใจ หรือ EKG คืออะไร ?

การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ หรือ Electrocardiogram (EKG) คือ การตรวจวัดคลื่นหัวใจ ด้วยการจับคลื่นไฟฟ้าที่หัวใจปล่อยออกมาขณะเต้น โดยแพทย์หรือพยาบาลจะติดจุดรับกระแสไฟฟ้าตามตำแหน่งต่างๆ ของคนไข้ ซึ่งเมื่อกระแสไฟฟ้ามีการรับ-ส่งเกิดขึ้น ก็จะถูกเครื่องแปลงสัญญาณ และแสดงผลอัตราการเต้นของหัวใจออกมาในรูปแบบเส้นกราฟ

ผลตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจสามารถช่วยให้แพทย์ทราบข้อมูลเกี่ยวกับหัวใจหลายประการ ได้แก่ จังหวะการเต้นของหัวใจ ความสม่ำเสมอของการเต้นของหัวใจ และการนำไฟฟ้า เพื่อช่วยตรวจหาความผิดปกติหรือโรคที่อาจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภาวะหัวใจโต กล้ามเนื้อหัวใจตาย กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หรือความผิดปกติของระดับเกลือแร่บางชนิดในร่างกาย

สำหรับการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ แนะนำตรวจในผู้มีอายุ 35 ปีขึ้นไป หรือผู้มีปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหัวใจ เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคเบาหวาน สูบบุหรี่ หรือผู้ทำงานบนที่สูงและในที่อับอากาศ หากตรวจพบความผิดปกติควรพบแพทย์อายุรกรรมเฉพาะทางโรคหัวใจ เพื่อตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม

.png

ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เพื่ออะไร ?

การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ นั้นถือว่ามีความสำคัญ เพื่อให้แพทย์สามารถทราบข้อมูลและความผิดปกติเกี่ยวกับหัวใจ ซึ่งจะช่วยให้การวินิจฉัยโรคมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยจากรายงานของกระทรวงสาธารณสุข ปี 2565 พบว่า คนไทยเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดมากถึง 7 หมื่นราย เฉลี่ยชั่วโมงละ 8 คน และคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี โดยสามารถเกิดขึ้นได้จากปัจจัยเสี่ยงหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นอายุ เพศ ประวัติครอบครัว ระดับความดันโลหิตที่สูง ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ระดับไขมันในเลือดสูง ภาวะอ้วนและน้ำหนักเกิน รวมไปถึงพฤติกรรมอย่างการสูบบุหรี่หรือดื่มสุราเป็นประจำ ดังนั้น เพื่อให้ทราบถึงความเสี่ยงถึงโรคหัวใจต่างๆ การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจจึงเป็นวิธีอันดับต้นๆ ที่แพทย์เลือกใช้ เพราะเป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว ไม่เจ็บ และไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวเป็นพิเศษ ที่สำคัญคือ สามารถตรวจได้ทุกเพศทุกวัย

ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ บอกอะไรได้บ้าง

แพทย์สามารถประเมินสุขภาพหัวใจได้จากกราฟคลื่นไฟฟ้า การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจจึงสามารถบ่งบอกข้อมูลที่สำคัญหลายประการ ตั้งแต่จังหวะการเต้นของหัวใจ โครงสร้างหรือขนาดของห้องหัวใจแต่ละห้อง ไปจนถึงความผิดปกติที่อาจแฝงอยู่ ดังนี้

1. การทำงานพื้นฐานของหัวใจ

ผลตรวจ EKG สามารถตรวจจังหวะการเต้นของหัวใจ ว่าสม่ำเสมอหรือไม่ ด้วยการบันทึกอัตราการเต้นของหัวใจ (ปกติอยู่ที่ 60-100 ครั้งต่อนาที) และการทำงานประสานกันของห้องหัวใจทั้ง 4 ห้อง

2. สภาพของกล้ามเนื้อหัวใจ

แพทย์สามารถประเมินความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหัวใจเบื้องต้นได้ ไม่ว่าจะเป็นความหนาของกล้ามเนื้อหัวใจ การขาดเลือดของกล้ามเนื้อหัวใจ อาการบาดเจ็บ หรือพังผืดที่เกิดขึ้นในกล้ามเนื้อหัวใจ

3. ความผิดปกติที่อาจนำไปสู่โรคต่างๆ

จากจังหวะ อัตราการเต้น และลักษณะการทำงานของเส้นเลือดหัวใจ แพทย์สามารถระบุถึงความผิดปกติที่อาจนำไปสู่โรค อาทิ โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ภาวะหัวใจโต โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ เป็นต้น อีกทั้ง แพทย์อาจแนะนำให้รับการตรวจอื่นๆ เพิ่มเติมในกรณีที่กราฟคลื่นไฟฟ้าหัวใจมีความผิดปกติ เพื่อการตรวจที่ละเอียดยิ่งขึ้น และหาสาเหตุของอาการเจ็บป่วยได้ทันท่วงที

ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ บอกอะไรได้บ้าง

คลื่นไฟฟ้าหัวใจ ปกติ มีค่าเท่าไหร่ ? 

อัตราการเต้นของหัว (Resting Heart Rate) โดยทั่วไปเฉลี่ยอยู่ที่ 60 – 100 ครั้งต่อนาที หากมีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ นั่นหมายถึง หัวใจเต้นเร็วหรือช้ากว่าปกติ ซึ่งอาจเกิดจากความผิดปกติของการกำเนิดกระแสไฟฟ้าหัวใจ การนำไฟฟ้าหัวใจ หรือสาเหตุอื่นๆ ร่วมด้วย

ข้อดีของการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ

นอกจากจะช่วยบ่งบอกสุขภาพหัวใจโดยรวมแล้ว การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจยังมีข้อดีด้านต่างๆ เช่น

  • ใช้เวลาในการตรวจไม่นาน
  • ไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวเป็นพิเศษก่อนตรวจ
  • สามารถตรวจได้ทุกเพศทุกวัย
  • ไม่เจ็บ ไม่เป็นอันตรายต่อคนไข้
  • ผลการวัดคลื่นหัวใจสามารถใช้ประกอบการวินิจฉัยอาการเจ็บป่วยได้หลากหลาย
  • สามารถบ่งบอกแนวโน้มความเสี่ยง หรือภาวะความผิดปกติที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวได้

ใครบ้างที่ควรตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG?

การตรวจคลื่นหัวใจสามารถทำได้ทุกเพศ ทุกวัย โดยควรเข้ารับการตรวจอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง พร้อมรายการตรวจสุขภาพประจำปี ทั้งนี้ ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่ควรเข้ารับการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจมีดังนี้

  • ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป หรือมีคนในครอบครัวที่มีประวัติป่วยเป็นโรคหัวใจ
  • ผู้ที่มีอาการที่อาจบ่งบอกได้ว่าอาจเป็นโรคหัวใจ เช่น ใจสั่น เจ็บหน้าอก เหนื่อยง่าย เป็นต้น
  • ผู้ที่มีไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง น้ำตาลในเลือดสูง หรือเป็นโรคเบาหวาน
  • ผู้ที่สูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
  • ผู้ที่ไม่ค่อยออกกำลังกาย

ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจเจ็บไหม

การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจเป็นการตรวจที่ปลอดภัยและไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวด เนื่องจากเป็นเพียงการติดอิเล็กโทรดบนผิวหนังเพื่อรับสัญญาณไฟฟ้าเท่านั้น ไม่มีการสอดใส่เครื่องมือใดๆ เข้าสู่ร่างกาย อาจมีเพียงความรู้สึกเย็นเล็กน้อยจากเจลที่ใช้ในการติดอิเล็กโทรด

นอกจากนี้ คนไข้สามารถเข้ารับการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG ได้โดยไม่จำเป็นต้องงดอาหารหรือน้ำ ไม่ต้องเตรียมตัวใดๆ เป็นพิเศษ อีกทั้งใช้เวลาในการตรวจน้อย เพียง 5 – 10 นาที จึงเป็นการตรวจที่สามารถทำได้ทุกเพศทุกวัย

ขั้นตอนการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ

สำหรับขั้นตอนการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจที่โรงพยาบาลซีเมด ลีฟวิ่งแคร์ มีลำดับขั้นตอนที่ง่าย ไม่ซับซ้อน พร้อมมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำ ดังนี้

  1. แจ้งชื่อ-นามสกุลกับเจ้าหน้าที่เพื่อยืนยันข้อมูล
  2. ถอดเครื่องประดับหรือวัตถุที่เป็นโลหะออกจากร่างกายก่อนเข้ารับการตรวจ
  3. เข้ารับการตรวจ และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่

คำแนะนำสำหรับการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ

  1. ควรสวมเสื้อผ้าที่สามารถถอดหรือเปิดบริเวณหน้าอกได้ง่าย เพื่อความสะดวกในการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
  2. หากมีอุปกรณ์ช่วยการทำงานของหัวใจ กรุณาแจ้งข้อมูลดังกล่าวแก่เจ้าหน้าที่ทุกครั้ง
  3. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย หรือกิจกรรมที่อาจส่งผลต่อการเต้นของหัวใจก่อนเข้าตรวจ
  4. ตรวจสอบให้มั่นใจว่าถอดเครื่องประดับที่เป็นโลหะทุกชนิดออกจากร่างกาย เช่น ต่างหู สร้อยคอ ฯลฯ
  5. ปิดเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดขณะเข้ารับการตรวจ

ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ราคาเท่าไหร่ ?

เบื้องต้น ราคาตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ มีความแตกต่างกันไปตามสถานพยาบาล โดยทั่วไปมักรวมอยู่ในแพ็กเกจตรวจสุขภาพประจำปี ซึ่งราคาจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ประเภทของสถานพยาบาล (โรงพยาบาลรัฐ/เอกชน) แพ็กเกจการตรวจที่เลือกโปรโมชันในช่วงเวลานั้นๆ สิทธิการรักษาที่มี อาทิ ประกันสังคม ประกันสุขภาพ

การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจเป็นการตรวจพื้นฐานที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการคัดกรองและเฝ้าระวังโรคหัวใจชนิดต่างๆ ทั้งยังเป็นการตรวจที่ทำได้ง่าย รวดเร็ว ปลอดภัย และไม่เจ็บปวด จึงเหมาะสำหรับการตรวจเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงหรือผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป การตรวจอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้แพทย์สามารถตรวจพบความผิดปกติได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ซึ่งจะช่วยให้วางแผนการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้

โรงพยาบาลซีเมด ลีฟวิ่งแคร์ ให้บริการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจครบวงจร

โรงพยาบาลซีเมด ลีฟวิ่งแคร์ (SEMed Living Care Hospital) ผู้ให้บริการตรวจสุขภาพด้านอาชีวเวชศาสตร์ครบวงจร ให้บริการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน ตั้งแต่การตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยงในการทำงาน บริการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และบริการตรวจสุขภาพนอกสถานที่แก่สถานประกอบการที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ด้วยบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน นำเทคโนโลยีมาบริหารจัดการข้อมูล เพื่อความถูกต้องรวดเร็ว สามารถส่งผลการตรวจได้ตรงตามความต้องการของผู้รับบริการ ซึ่งสามารถดูผลตรวจสุขภาพผ่านระบบออนไลน์ได้

เราพร้อมให้การสนับสนุนข้อมูลทางวิชาการแก่สถานประกอบการ ให้หัวข้อต่างๆ ทั้งในด้านสุขภาพและด้านอาชีวเวชศาสตร์ ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ มอบบริการที่ใส่ใจ รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ลูกค้าทุกท่านพึงพอใจและได้ประโยชน์สูงสุด

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 

โทร.: 0-2199-2111 ต่อ 161 แผนกการตลาด

หรือ 081-358-6493 (คุณอ้น), 086-368-5317 (คุณไอซ์)

อีเมล: info@semed.co.th

LINE: @semed

Facebook: SEMed living care hospital