ตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน เรื่องสำคัญที่คนวัยทำงานควรรู้

AUG 03 1500x778

ในปัจจุบัน องค์กรต่างหันมาให้ความสำคัญกับการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน หลายบริษัทจึงกำหนดให้การตรวจสุขภาพเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการรับพนักงาน ซึ่งการตรวจสุขภาพนี้ไม่เพียงแต่เป็นการขอใบรับรองแพทย์เพื่อยืนยันความพร้อมทางด้านสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยให้กับทั้งองค์กรและตัวผู้สมัครอีกด้วย

ความสำคัญของการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน

การตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งในหลายมิติ  

ในมุมมองขององค์กร การตรวจสุขภาพเป็นมาตรการสำคัญในการคัดกรองบุคลากรที่จะเข้ามาปฏิบัติงาน เพราะสุขภาพที่ดีของพนักงานเป็นรากฐานสำคัญของประสิทธิภาพในการทำงาน องค์กรจำเป็นต้องมั่นใจว่าพนักงานใหม่มีความพร้อมทางด้านร่างกายและจิตใจที่จะปฏิบัติงานได้อย่างเต็มที่ ไม่มีโรคติดต่อหรือโรคประจำตัวที่อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานหรือเพื่อนร่วมงาน

ในขณะเดียวกัน สำหรับพนักงาน/ผู้สมัครงาน การตรวจสุขภาพก่อนเริ่มงานถือเป็นโอกาสอันดีในการประเมินสภาวะสุขภาพของตนเองเบื้องต้น บ่อยครั้งที่หลายคนมองข้ามอาการผิดปกติเล็กๆ น้อยๆ ของร่างกาย ซึ่งการตรวจสุขภาพอย่างละเอียดจะช่วยให้พบปัญหาสุขภาพตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ทำให้สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างทันท่วงที ทั้งยังเป็นโอกาสในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลสุขภาพให้เหมาะสมกับลักษณะงานที่กำลังจะเริ่มต้นอีกด้วย หรือเมื่อเริ่มทำงานไปแล้วเกิดปัญหาสุขภาพ จะง่ายต่อการหาสาเหตุของปัญหาสุขภาพซึ่งอาจจะเกิดจากการทำงาน 

ความสำคัญของการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน

[SEMed Living Care Hospital] SEO AUG C01 2 1200x628

การตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานนั้นมีรายการตรวจที่ครอบคลุมหลายด้าน ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามลักษณะงานของแต่ละบริษัทหรือองค์กร โดยทั่วไปจะเริ่มจากการตรวจร่างกายพื้นฐานโดยแพทย์ ซึ่งรวมถึงการซักประวัติสุขภาพ การตรวจวัดสัญญาณชีพ ความดันโลหิต ชีพจร และการประเมินดัชนีมวลกาย สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้แพทย์สามารถประเมินสภาพร่างกายโดยรวมได้ รายการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานแบ่งได้ดังนี้

1. การตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานทั่วไป

  • ตรวจร่างกายโดยแพทย์ (Physical Examination) เช่น ซักประวัติสุขภาพ การตรวจวัดสัญญาณชีพ ความดันโลหิต ชีพจร และการประเมินดัชนีมวลกาย 
  • เอกซเรย์ปอดและทรวงอก
  • ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด
  • ตรวจปัสสาวะ
  • ตรวจคัดกรองสารเสพติด
  • ตรวจหาเชื้อไวรัส โรคติดต่อ
  • ตรวจการตั้งครรภ์

2. ตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยงในการทำงาน หรือในงานที่มีปัจจัยเสี่ยง

ในบางตำแหน่งงานหรือลักษณะการทำงานที่มีความเสี่ยงเฉพาะ องค์กรอาจกำหนดให้มีการตรวจสุขภาพเพิ่มเติมตามปัจจัยเสี่ยงในการทำงาน เช่น

  • การตรวจวัดสายตาละเอียด
  • การทดสอบการแยกสี
  • การวัดความสามารถในการมองเห็นในระยะใกล้และไกล
  • การตรวจการได้ยินด้วยเครื่อง 
  • การตรวจสภาพหูและช่องหู
  • การตรวจสมรรถภาพปอดด้วยเครื่อง
  • การตรวจภาพรังสีทรวงอกแบบละเอียด
  • การประเมินการทำงานของระบบทางเดินหายใจ
  • และอื่นๆ ตามลักษณะการทำงานและปัจจัยเสี่ยงที่พนักงานอาจเผชิญ

การตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน ราคาเท่าไหร่

บริการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานมีราคาแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ อาทิ 

  • แพ็กเกจของโรงพยาบาล – สถานพยาบาลมักนำเสนอแพ็กเกจตรวจสุขภาพต่างๆ ในราคาต่างกันไป เพื่อตอบโจทย์ความต้องการหลากหลาย 
  • รายการตรวจ – หากต้องการให้โรงพยาบาลตรวจสุขภาพที่อยู่นอกเหนือจากรายการหลัก อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับรายการตรวจนั้นๆ
  • ความละเอียดในการตรวจ – ความละเอียดในการตรวจของแต่ละสถานพยาบาลอาจแตกต่างกันไป ซึ่งส่งผลให้ค่าตรวจสุขภาพสูงขึ้น

โดยที่โรงพยาบาลซีเมด ลีฟวิ่งแคร์ เราเข้าใจความสำคัญของการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน จึงได้ออกแบบแพ็กเกจการตรวจที่ครอบคลุมและคุ้มค่า โดยแบ่งเป็นแพ็กเกจสำหรับผู้ชายในราคา 950 บาท และแพ็กเกจสำหรับผู้หญิงในราคา 1,100 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งครอบคลุมการตรวจที่จำเป็นทั้งหมด ได้แก่

  • ตรวจร่างกายทั่วไปโดยแพทย์ (Physical Examination)
  • เอกซเรย์ทรวงอกระบบดิจิทัล (Chest X-Ray Digital)
  • ตรวจปัสสาวะสมบูรณ์แบบ (Urinalysis)
  • ตรวจคัดกรองสารเสพติดในปัสสาวะ (Methamphetamine)
  • ตรวจหาเชื้อซิฟิลิสและภาวะเสี่ยงกามโรค (VDRL)
  • ตรวจการตั้งครรภ์ (Pregnancy Test)
  • ตรวจวัดความดันโลหิต ชีพจร ชั่งน้ำหนัก ส่วนสูง ดัชนีมวลกาย (Vital Signs)
  • ใบรับรองแพทย์ และรายงานผลการตรวจสุขภาพ

อยากตรวจสุขภาพก่อนเข้าทํางาน ใช้ประกันสังคมได้ไหม

ผู้ประกันตนในมาตรา 33 และ 39 มีสิทธิตรวจสุขภาพพื้นฐานถึง 14 รายการ เพียงแค่แสดงบัตรประชาชนกับสถานพยาบาล ก็สามารถเข้ารับบริการตรวจสุขภาพกับประกันสังคมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ มีข้อควรพิจารณาหลายประการ ดังนี้

  1. รายการตรวจที่ครอบคลุมโดยประกันสังคมอาจไม่ครอบคลุมความต้องการของบริษัทที่สมัครงาน เพราะบางองค์กรอาจมีรายการตรวจเฉพาะที่ต้องการ ดังนั้นจึงควรสอบถามกับบริษัทให้แน่ใจก่อน
  2. การตรวจสุขภาพประกันสังคมอาจใช้เวลานานกว่าการตรวจที่โรงพยาบาลเอกชน และอาจมีข้อจำกัดในเรื่องของเวลาการรับผลตรวจ ดังนั้น หากต้องการความรวดเร็วและความครบถ้วนตามที่บริษัทต้องการ การเลือกตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า

ก่อนตรวจสุขภาพเข้าทำงานควรเตรียมตัวอย่างไร

การเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนเข้ารับการตรวจสุขภาพมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความแม่นยำของผลตรวจ โดยขอแนะนำให้เตรียมตัวก่อนตรวจสุขภาพ ดังนี้

  • พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง
  • งดอาหารและเครื่องดื่ม 8-10 ชั่วโมงก่อนตรวจ (กรณีต้องเจาะเลือด)
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ 24-48 ชั่วโมง

ทั้งนี้ ในกรณีตรวจโปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานมาตรฐานทั่วไป ไม่ต้องงดน้ำและอาหาร โดยทั่วไป อาจใช้ระยะเวลารอผลตรวจประมาณ 1-2 ชั่วโมง หรือภายใน 1 วัน ขึ้นอยู่กับความละเอียดของการตรวจ

ตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานที่ไหนดี?

[SEMed Living Care Hospital] SEO AUG C01 3 1200x628

การเลือกสถานที่ตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของผลตรวจและความสะดวกในการรับบริการ กล่าวได้ว่าการเลือกสถานพยาบาลสำหรับตรวจสุขภาพ มีหลายปัจจัยที่ควรพิจารณา

  • มาตรฐานการให้บริการทางการแพทย์

ควรเลือกโรงพยาบาลที่ผ่านรับการรับรองคุณภาพ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการตรวจทุกขั้นตอนเป็นไปตามมาตรฐานที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ โรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานจะมีระบบการควบคุมคุณภาพที่เข้มงวด ตั้งแต่กระบวนการตรวจ การวิเคราะห์ผล ไปจนถึงการรายงานผล ทำให้ผลการตรวจมีความแม่นยำ

  • มีการซักประวัติและตรวจร่างกายโดยแพทย์

ในกระบวนการตรวจ แพทย์ควรเป็นผู้ซักประวัติและตรวจร่างกาย พร้อมทั้งให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ นอกจากนี้ การมีทีมพยาบาลและเจ้าหน้าที่ที่ผ่านการอบรมเฉพาะทางยังช่วยให้การบริการเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ 

  • เลือกแพ็กเกจตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานที่ครอบคลุม ตามที่บริษัทกำหนด

สถานพยาบาลที่ดีควรมีแพ็กเกจการตรวจที่หลากหลาย สามารถเลือกปรับให้เข้ากับความต้องการของแต่ละองค์กร บางบริษัทอาจต้องการการตรวจพิเศษเพิ่มเติมตามลักษณะงาน เช่น การตรวจสมรรถภาพปอดสำหรับงานที่ต้องสัมผัสฝุ่น ซึ่งสถานพยาบาลควรสามารถจัดแพ็กเกจหรือรายการตรวจที่ตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ได้

  • รู้ผลรวดเร็ว และมีช่องทางการส่งผลตรวจทางออนไลน์

สถานพยาบาลในปัจจุบันมักมีการรายงานผลตรวจที่รวดเร็ว ภายในไม่เกิน 1-2 ชั่วโมง หรือโรงพยาบาลบางแห่งอาจมีการส่งผลตรวจผ่านอีเมล หรือช่องทางออนไลน์อื่นๆ ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางได้อย่างมาก

โรงพยาบาลซีเมด ลีฟวิ่งแคร์ ให้บริการตรวจสุขภาพประจำปีครบวงจร

โรงพยาบาลซีเมด ลีฟวิ่งแคร์ (SEMed Living Care Hospital) ผู้ให้บริการตรวจสุขภาพด้านอาชีวเวชศาสตร์ครบวงจร ให้บริการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน รวมถึงการตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยงในการทำงาน และบริการตรวจสุขภาพนอกสถานที่แก่สถานประกอบการที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ด้วยบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน นำเทคโนโลยีมาบริหารจัดการข้อมูล เพื่อความถูกต้องรวดเร็ว สามารถส่งผลการตรวจได้ตรงตามความต้องการของผู้รับบริการ ซึ่งสามารถดูผลตรวจสุขภาพผ่านระบบออนไลน์ได้ 

เราพร้อมให้การสนับสนุนข้อมูลทางวิชาการแก่สถานประกอบการ ให้หัวข้อต่างๆ ทั้งในด้านสุขภาพและด้านอาชีวเวชศาสตร์ ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ มอบบริการที่ใส่ใจ รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ลูกค้าทุกท่านพึงพอใจและได้ประโยชน์สูงสุด 

ตรวจสุขภาพครั้งใด.. นึกถึง โรงพยาบาลซีเมด ลีฟวิ่งแคร์ เราไม่เคยหยุดนิ่ง เพื่อสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 

โทร.: 0-2199-2111 ต่อ 161 แผนกการตลาด

หรือ 081-358-6493 (คุณอ้น), 086-368-5317 (คุณไอซ์)

อีเมล: info@semed.co.th

LINE: @semed

Facebook: SEMed living care hospital