การรักษามาตรฐานความสะอาดและความปลอดภัยในอุตสาหกรรมอาหารมีความสำคัญอย่างมาก เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคต่างๆ และสุขอนามัยที่ดีของผู้บริโภค การตรวจสุขภาพผู้สัมผัสอาหารจึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคว่า อาหารที่รับประทานนั้นผ่านการเตรียมและปรุงจากบุคลากรที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคติดต่อที่อาจส่งผลต่อความปลอดภัยของอาหาร
โดยผู้สัมผัสอาหาร มีบทบาทในการรักษามาตรฐานความสะอาด ควรต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพ และสำหรับองค์กรที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร พนักงานหรือบุคลากรผู้สัมผัสอาหารต้องมีใบรับรองแพทย์ก่อนเข้าทำงาน และเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ
การตรวจสุขภาพผู้สัมผัสอาหาร คืออะไร
การตรวจสุขภาพผู้สัมผัสอาหารเป็นการตรวจประเมินสุขภาพของบุคลากรที่ทำงานเกี่ยวข้องกับอาหาร ไม่ว่าจะเป็นพ่อครัว แม่ครัว พนักงานเสิร์ฟ ผู้ลำเลียง ผู้ขนส่ง ผู้ที่มีหน้าที่เตรียมและจัดการอาหาร รวมไปถึงผู้เก็บและทำความสะอาดภาชนะอุปกรณ์ต่างๆ การตรวจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคติดต่อผ่านอาหาร สร้างความมั่นใจในความปลอดภัยของอาหาร รักษามาตรฐานสุขาภิบาลอาหารตามกฎหมาย และดูแลสุขภาพของผู้ปฏิบัติงานด้านอาหาร
อีกทั้งการตรวจสุขภาพผู้สัมผัสอาหารสามารถช่วยระบุความเสี่ยงด้านสุขภาพ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษา “สุขาภิบาลอาหาร” หรือการทำอาหารให้สะอาด ปลอดภัย รับประทานแล้วไม่ทำให้เกิดโรค
ข้อดีของการตรวจสุขภาพผู้สัมผัสอาหาร
การตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอมีประโยชน์หลายประการ ทั้งต่อผู้ประกอบการธุรกิจอาหาร บุคลากร และผู้บริโภคอย่างมีนัยสำคัญ ดังนี้
สถานประกอบการด้านอาหาร สามารถปฏิบัติตามมาตรฐานการสุขาภิบาลอาหาร
เพื่อลดความเสี่ยงอันตรายด้านกายภาพ ทางเคมี และทางชีวภาพในการประกอบอาหาร พร้อมลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายโรคติดต่อ
สร้างความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจจากลูกค้า
สถานประกอบการด้านอาหารสามารถสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าและผู้บริโภคทั่วไปว่า ผลิตภัณฑ์ของตนนั้นสะอาด ปลอดภัย และเป็นไปตามหลักอนามัย สร้างชื่อเสียงเชิงบวกในด้านการรักษามาตรฐานความปลอดภัยของอาหาร
ผู้สัมผัสอาหารได้รับรู้โรคแฝงที่ตนเองอาจมีอยู่แล้ว
ผู้สัมผัสอาหาร ทั้งพ่อครัวแม่ครัว พนักงานเสิร์ฟ และบุคลากรอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จะสามารถทราบได้ว่าตนเองมี โรคแฝง หรืออาการเจ็บป่วยใดๆ หรือไม่ พร้อมทราบสถานะสุขภาพของตนเอง และแนวทางการดูแลสุขภาพตนเอง เพื่อให้ผู้สัมผัสอาหารมีความเป็นอยู่ที่ดี มีความมั่นใจในการปฏิบัติงานมากยิ่งขึ้น
ตรวจสุขภาพผู้สัมผัสอาหาร ตรวจอะไรบ้าง
ในการตรวจสุขภาพผู้สัมผัสอาหารโดยทั่วไป สถานพยาบาลจะให้บริการตรวจตามรายการดังต่อไปนี้
- ตรวจร่างกายทั่วไปโดยแพทย์ (Physical Examination)
- เอกซเรย์ทรวงอก (Chest X-Ray)
- ตรวจอุจจาระทั่วไป (Stool Examination)
- ตรวจเพาะเชื้อในระบบทางเดินอาหาร (Stool Culture)
- ตรวจเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg)
- ตรวจเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ (Anti-HAV IgM)
- ตรวจภูมิคุ้มกันไวรัสตับอักเสบเอ (Anti-HAV IgG
หลังตรวจ แพทย์ประจำสถานพยาบาลจะออกใบรับรองแพทย์ 9 โรค หรือ สณ. 11 ซึ่งเป็นเอกสารรายงานสภาวะสุขภาพอนามัยสำหรับผู้ที่จะประกอบอาชีพผู้สัมผัสอาหารหรืองานบริการ เพื่อนำไปยื่นให้กับองค์กรหรือเปิดร้านค้าอาหาร
ตรวจสุขภาพผู้สัมผัสอาหาร ราคาเท่าไหร่
ราคาของการตรวจสุขภาพผู้สัมผัสอาหารอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละสถานพยาบาลซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น
- แพ็กเกจตรวจสุขภาพ – สถานพยาบาลมักนำเสนอแพ็กเกจตรวจสุขภาพสำหรับผู้สัมผัสอาหารในราคาต่างกันไป
- รายการตรวจ – อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับรายการตรวจสุขภาพผู้สัมผัสอาหาร โดยสถานพยาบาลบางแห่งอาจเสนอรายการตรวจที่ครอบคลุมมากกว่า แต่ก็มีราคาที่สูงขึ้นเช่นกัน
ความละเอียดในการตรวจ – ความละเอียดในการตรวจของแต่ละสถานพยาบาลอาจแตกต่างกันไป ซึ่งส่งผลให้ค่าตรวจสุขภาพสูงขึ้น
การตรวจสุขภาพผู้สัมผัสอาหารไม่เพียงเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและใส่ใจในสุขภาพของทั้งพนักงานและผู้บริโภค การเลือกสถานพยาบาลที่มีมาตรฐานและความเชี่ยวชาญอย่างโรงพยาบาลซีเมด ลีฟวิ่งแคร์ จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าการตรวจสุขภาพจะครบถ้วน แม่นยำ และได้มาตรฐาน
โรงพยาบาลซีเมด ลีฟวิ่งแคร์ ให้บริการตรวจสุขภาพประจำปีครบวงจร
โรงพยาบาลซีเมด ลีฟวิ่งแคร์ (SEMed Living Care Hospital) ผู้ให้บริการตรวจสุขภาพด้านอาชีวเวชศาสตร์ครบวงจร ทั้งบริการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน บริการตรวจสุขภาพนอกสถานที่ และบริการตรวจสุขภาพผู้สัมผัสอาหาร ด้วยบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน นำเทคโนโลยีมาบริหารจัดการข้อมูล เพื่อความถูกต้องรวดเร็ว สามารถส่งผลการตรวจได้ตรงตามความต้องการของผู้รับบริการ ซึ่งสามารถดูผลตรวจสุขภาพผ่านระบบออนไลน์ได้เลย
เราพร้อมให้การสนับสนุนข้อมูลทางวิชาการแก่สถานประกอบการ ให้หัวข้อต่างๆ ทั้งในด้านสุขภาพและด้านอาชีวเวชศาสตร์ ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ มอบบริการที่ใส่ใจ รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ลูกค้าทุกท่านพึงพอใจและได้ประโยชน์สูงสุด ช่วยวางแผนการตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยงและตรวจสุขภาพประจำปี
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โทร.: 0-2199-2111 ต่อ 161 แผนกการตลาด
หรือ 081-358-6493 (คุณอ้น), 086-368-5317 (คุณไอซ์)
อีเมล: info@semed.co.th
LINE: @semed
Facebook: SEMed living care hospital