ตรวจสุขภาพก่อนเริ่มงาน จำเป็นหรือไม่ บอกเหตุผลที่ควรเข้าตรวจ

การตรวจสุขภาพก่อนเริ่มงาน

การตรวจสุขภาพก่อนเริ่มงานเป็นสิ่งที่หลายคนต้องเผชิญเมื่อได้รับการตอบรับเข้าทำงานในองค์กรต่างๆ แต่หลายคนอาจสงสัยว่าจำเป็นต้องตรวจหรือไม่ เนื่องจากบางองค์กรมีนโยบายให้ตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน แต่บางแห่งอาจไม่ได้กำหนดให้ต้องมีใบรับรองแพทย์ จึงก่อให้เกิดคำถามว่า “ตรวจสุขภาพก่อนเริ่มงานจำเป็นไหม” ทั้งนี้ การตรวจสุขภาพก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม บทความนี้ โรงพยาบาลซีเมด ลีฟวิ่งแคร์จะช่วยไขข้อข้องใจเกี่ยวกับความสำคัญของการตรวจสุขภาพก่อนเริ่มงาน พร้อมบอกเหตุผลสำคัญที่ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี

ความสำคัญของการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน

การตรวจสุขภาพก่อนเริ่มงานมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับตัวผู้ที่จะเข้าเป็นพนักงาน ซึ่งมีข้อดีดังนี้

1. รู้สุขภาพร่างกายตนเองเบื้องต้น

แม้ภายนอกจะดูปกติ แต่บางคนอาจมีความผิดปกติที่ไม่แสดงอาการ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ภาวะไขมันในเลือดสูง และโรคมะเร็ง เป็นต้น ดังนั้นการตรวจสุขภาพที่เป็นการคัดกรองเบื้องต้น จะช่วยให้ทราบสภาวะร่างกายที่แท้จริง 

2. ค้นพบโรคแฝงได้เร็วและรักษาได้ทันท่วงที

บางคนอาจมีอาการเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของโรคที่แฝงอยู่ ซึ่งหากเข้ารับการตรวจสุขภาพ แล้วพบความผิดปกติหรือมีแนวโน้มที่จะเกิดโรค ก็จะสามารถเข้ารับการรักษาได้ทันท่วงที ก่อนที่อาการจะรุนแรงและลุกลามไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกาย 

3. วางแผนการดูแลสุขภาพล่วงหน้า

ผลการตรวจจะช่วยให้สามารถวางแผนการดูแลสุขภาพได้อย่างเหมาะสม ได้รู้ถึงแนวโน้มการเป็นโรค พร้อมป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ทำไมแต่ละองค์กรมีนโยบายการตรวจสุขภาพก่อนเริ่มงานต่างกัน

เนื่องด้วยนโยบายการตรวจสุขภาพในแต่ละองค์กร อาจมีความแตกต่างกันตามแต่ละลักษณะการทำงาน ยกตัวอย่างเช่น 

  • งานออฟฟิศทั่วไป – เป็นลักษณะงานที่มีความเสี่ยงต่ำ ไม่มีความเสี่ยงด้านสุขภาพโดยตรง องค์กรจึงอาจมีหรือไม่มีนโยบายตรวจสุขภาพก่อนเริ่มงาน และอาจมีหรือไม่มีสวัสดิการตรวจสุขภาพประจำปี
  • งานที่มีปัจจัยเสี่ยง – งานที่มีความเสี่ยง รวมถึงงานบางประเภทตามกำหนดของกฎกระทรวง มีความจำเป็นที่พนักงานหรือผู้สมัครเข้าทำงานต้องเข้าตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยงในการทำงาน อีกทั้งยังต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ 
การตรวจสุขภาพก่อนเริ่มงาน มีอะไรบ้าง

ตรวจสุขภาพก่อนเริ่มงาน มีอะไรบ้าง

การตรวจสุขภาพก่อนเริ่มงานอาจเป็นการตรวจสุขภาพทั่วไปหรือการตรวจสุขภาพตามรายการที่องค์กรเฉพาะเจาะจง หลายองค์กรต้องการใบรับรองแพทย์ที่แสดงความปกติของสุขภาพร่างกายของผู้เข้าทำงาน โดยรายละเอียดจะต่างไปตามแต่ละองค์กร ซึ่งโดยทั่วไปมี 5 โรค ดังนี้

1. วัณโรค

โรคติดต่อร้ายแรงที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่แพร่กระจายผ่านระบบทางเดินหายใจ เชื้อวัณโรคไม่เพียงแต่ทำลายปอดเท่านั้น แต่ยังสามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ เช่น ต่อมน้ำเหลือง กระดูก หรือแม้แต่เยื่อหุ้มสมอง อีกทั้งเมื่อผู้ป่วยไอ จาม หรือพูดคุย ละอองเสมหะที่มีเชื้อสามารถลอยในอากาศและแพร่สู่ผู้อื่นได้ ดังนั้นการตรวจคัดกรองวัณโรคจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันการแพร่ระบาดในสถานที่ทำงานที่มีคนจำนวนมากอยู่รวมกัน

2. โรคเท้าช้าง

โรคที่เกิดจากการติดเชื้อพยาธิตัวกลมฟิลาเรีย ซึ่งมียุงเป็นพาหะนำโรค เมื่อพยาธิเข้าสู่ร่างกายจะอาศัยอยู่ในระบบน้ำเหลือง ทำให้เกิดการอุดตันของท่อน้ำเหลืองและการอักเสบเรื้อรัง ส่งผลให้เกิดอาการบวมตามแขนขาและอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณขาและอวัยวะเพศ ในกรณีที่เป็นรุนแรงอาจนำไปสู่ความพิการถาวรได้ การตรวจคัดกรองโรคนี้จึงมีความสำคัญเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดและให้การรักษาได้ทันท่วงที

3. โรคพิษสุราเรื้อรัง

ภาวะที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากเป็นเวลานานจนร่างกายเกิดการพึ่งพาหรืออาการ “ติดแอลกอฮอล์” ซึ่งส่งผลกระทบรุนแรงต่อการทำงานของตับและระบบประสาท ผู้ป่วยมักมีอาการมือสั่น หงุดหงิดง่าย คลื่นไส้อาเจียน และอาจมีอาการประสาทหลอนหากหยุดดื่มกะทันหัน นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมและการตัดสินใจ ทำให้เกิดความเสี่ยงในการทำงาน โดยเฉพาะงานที่ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบหรือเกี่ยวข้องกับความปลอดภัย

4. โรคเรื้อน

โรคติดต่อเรื้อรังที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Mycobacterium leprae ซึ่งส่งผลกระทบต่อผิวหนัง เส้นประสาทส่วนปลาย และเยื่อบุทางเดินหายใจส่วนบน ผู้ป่วยจะมีอาการผื่นผิวหนังที่มีลักษณะเฉพาะ บริเวณที่เป็นผื่นจะชาและไม่มีความรู้สึก และอาจนำไปสู่การบาดเจ็บและพิการได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม แม้ในปัจจุบันโรคเรื้อนจะพบได้น้อยลง แต่การตรวจคัดกรองยังคงมีความสำคัญเพื่อการควบคุมโรคและป้องกันการแพร่ระบาด

5. โรคยาเสพติดให้โทษ

ภาวะที่ร่างกายและจิตใจเกิดการเสพติดสารเสพติดประเภทต่างๆ ซึ่งส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพและการทำงาน การตรวจคัดกรองสารเสพติดมักทำผ่านการตรวจปัสสาวะ โดยจะตรวจหาสารเมทแอมเฟตามีนและแอมเฟตามีนเป็นหลัก ผู้ที่ติดสารเสพติดจะมีการเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและพฤติกรรม เช่น น้ำหนักลด นอนไม่หลับ หงุดหงิดง่าย ขาดสมาธิ และอาจมีอาการประสาทหลอน ซึ่งส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงานและความปลอดภัยของทั้งตนเองและเพื่อนร่วมงาน

ในส่วนของการตรวจสุขภาพทั่วไป รายการตรวจจะประกอบไปด้วย การตรวจร่างกายทั่วไปโดยแพทย์ เอกซเรย์ปอดและหัวใจ ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ตรวจปัสสาวะและสารเสพติด และตรวจสายตาและการมองเห็น 

ทั้งนี้ การตรวจสุขภาพก่อนเริ่มงานอาจมีราคาที่แตกต่างกันไปตามลักษณะการตรวจ สถานพยาบาล แพ็กเกจ โปรโมชัน รวมถึงสิทธิการรักษาต่างๆ ของผู้เข้ารับการตรวจ

การตรวจสุขภาพก่อนเริ่มงานเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ทั้งต่อตัวพนักงานและองค์กร แม้บางองค์กรอาจไม่ได้กำหนดเป็นข้อบังคับ แต่การตรวจสุขภาพจะช่วยให้เราทราบสภาวะร่างกายของตนเอง และสามารถวางแผนดูแลสุขภาพได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อตนเองและเพื่อนร่วมงาน ช่วยสร้างความมั่นใจในการเริ่มต้นการทำงานใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โรงพยาบาลซีเมด ลีฟวิ่งแคร์ ให้บริการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน

โรงพยาบาลซีเมด ลีฟวิ่งแคร์ (SEMed Living Care Hospital) ผู้ให้บริการตรวจสุขภาพด้านอาชีวเวชศาสตร์ครบวงจร ให้บริการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน ตั้งแต่การตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยงในการทำงาน บริการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และบริการตรวจสุขภาพนอกสถานที่แก่สถานประกอบการที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ด้วยบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน นำเทคโนโลยีมาบริหารจัดการข้อมูล เพื่อความถูกต้องรวดเร็ว สามารถส่งผลการตรวจได้ตรงตามความต้องการของผู้รับบริการ ซึ่งสามารถดูผลตรวจสุขภาพผ่านระบบออนไลน์ได้ 

เราพร้อมให้การสนับสนุนข้อมูลทางวิชาการแก่สถานประกอบการ ให้หัวข้อต่างๆ ทั้งในด้านสุขภาพและด้านอาชีวเวชศาสตร์ ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ มอบบริการที่ใส่ใจ รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ลูกค้าทุกท่านพึงพอใจและได้ประโยชน์สูงสุด 

ตรวจสุขภาพครั้งใด.. นึกถึง โรงพยาบาลซีเมด ลีฟวิ่งแคร์ เราไม่เคยหยุดนิ่ง เพื่อสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 

โทร.: 0-2199-2111 ต่อ 161 แผนกการตลาด

หรือ 081-358-6493 (คุณอ้น), 086-368-5317 (คุณไอซ์)

อีเมล: info@semed.co.th

LINE: @semed

Facebook: SEMed living care hospital