นโยบายความเป็นส่วนตัวของผู้สมัครงาน

(Privacy policy)

ศูนย์วิจัยทางการแพทย์อาชีวเวชศาสตร์ไทย โรงพยาบาลซีเมดลีฟวิ่งแคร์

        ศูนย์วิจัยทางการแพทย์อาชีวเวชศาสตร์ไทย โรงพยาบาลซีเมดลีฟวิ่งแคร์  มุ่งมั่นที่จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในฐานะที่ท่านเป็นผู้สมัครงานของบริษัทฯ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บริษัทฯ ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ตามกฎหมายในการแจ้งเอกสารฉบับนี้ให้ท่านทราบถึงเหตุผลและวิธีการที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงแจ้งให้ท่านทราบสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

วัตถุประสงค์

นิยาม

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

“ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ (เช่น ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า ข้อมูลจำลองม่านตา ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ) หรือข้อมูลอื่นใดที่กระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด

“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลที่มีอํานาจในการตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุตัวตน
  • ข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนได้ เช่น รายละเอียดในบัตรประชาชน (อันได้แก่ เลขประจำตัวประชาชน ชื่อ ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด เพศ รูปถ่าย โดยรวมถึงศาสนา และกรุ๊ปเลือด) หนังสือเดินทาง บัตรประจำตัวบุคลากร ทะเบียนบ้าน หรือใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ หรือหมายเลขที่ระบุตัวตนอื่น ๆ
  • ชื่อ ที่อยู่ และข้อมูลอื่นที่สามารถติดต่อได้ (Contact data) เช่น หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล
  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับครอบครัวหรือผู้รับประโยชน์ เช่น ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ หมายเลข โทรศัพท์ อีเมล์ รายละเอียดในบัตรประชาชน (สำหรับกรณีที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิการ หรือใช้สำหรับการติดต่อในกรณีฉุกเฉิน)
  • ให้บุคคลดังกล่าวทราบเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว โดยบริษัท และบุคคลดังกล่าวได้ยินยอมตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวแล้ว
  • ข้อมูลเกี่ยวกับสถานะของเจ้าของข้อมูล เช่น วัน/เดือน/ปี เกิด อายุ เพศ สถานภาพสมรส อาชีพ และสถานภาพทางทหาร
  • ข้อมูลทางการเงิน เช่น ข้อมูลบัญชีธนาคาร
  • ข้อมูลภาพนิ่ง
เพื่อให้บริษัทนำใปใช้ในพิจารณาคุณสมบัติเพื่อพิจารณาเข้ารับทำงาน หรือทำสัญญาว่าจ้าง และการบริหารจัดการตามระบบของฝ่ายทรัพยากรบุคคลและธุรการต่อไป  และสำหรับการติดต่อในกรณีฉุกเฉิน

ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการจ้างแรงงาน
  • ใบสมัครงาน รายละเอียดเกี่ยวกับตำแหน่ง รายละเอียดของตำแหน่ง ประวัติการทำงาน สถานที่ทำงาน ระยะเวลาการทำงาน เงินเดือน สิทธิประโยชน์ภาษีข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายแรงงาน
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการประเมินผลการสัมภาษณ์ เช่น จุดมุ่งหมายในการทำงานของเจ้าของข้อมูลการพูดคุยที่เกี่ยวกับการปฏิบัติงาน บันทึกการประเมินการสัมภาษณ์
  • ข้อมูลที่เกี่ยวกับการจ้าง เช่น ประวัติโดยย่อ (CV) ประสบการณ์การทำงานก่อนหน้า ประวัติ การศึกษา ใบคุณวุฒิใบอนุญาต ใบประกาศณียบัตร
  • ข้อมูลที่เกี่ยวกับการกระทำผิดและการลงโทษทางวินัย ข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบประวัติ ข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัย
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว  
  • ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ (Health data) ข้อมูลการรักษาพยาบาล รายงานที่เกี่ยวกับสุขภาพกายและสุขภาพจิต ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาและแพ้ยา ประวัติแพ้อาหาร และโรคประจำตัว
  • ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติอาชญากรรม การขอใบตรวจสอบประวัติอาชญากรรมในบางตำแหน่งงาน
บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งที่มาดังต่อไปนี้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้โดยตรงจากท่าน ได้แก่ กรณีที่ท่านเป็นผู้สมัครงาน: บริษัทฯ ได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากการที่ท่านติดต่อสอบถามกับบริษัทฯ เรื่องการสมัครงาน หรือท่านได้เขียนใบสมัครงาน ด้วยตนเองที่บริษัทฯ รวมทั้งการสมัครงานผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับโดยทางอ้อม บุคคลที่มีความใกล้ชิดกับท่าน เช่น ครอบครัว ญาติ คู่สมรส เป็นต้น

การเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลบริษัทฯ จะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้บุคคลภายนอก ยกเว้นเป็นกรณีที่กฎหมายอนุญาตเพื่อความจำเป็นในการปฏิบัติงาน ซึ่งทำให้บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ในกรณีต่อไปนี้
  1. เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้หน่วยงานราชการ หน่วยงานผู้มีอำนาจหรือบุคคลใดๆ เมื่อมีกฎหมายกำหนดหรือให้อำนาจ รวมถึงการปฏิบัติตามคำสั่งศาล
  2. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลหรือนิติบุคคลที่บริษัทฯ จำเป็นต้องปฏิบัติตามสัญญาหรือเพื่อผลประโยชน์ของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทฯ กำหนดให้บุคคลหรือนิติบุคคลเหล่านี้ต้องรักษาความลับและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามมาตรฐานที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กำหนด ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงบุคคลหรือนิติบุคคลในข้อนี้ได้แก่สถานพยาบาลในเครือข่าย และกลุ่มบริษัทฯ เท่าที่จำเป็นในการสมัครงาน โดยบริษัทฯ จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะส่วนที่จำเป็นเท่านั้น และบริษัทฯ จะรักษาความลับให้กับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามหน้าที่ที่บริษัทฯ มีภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ("พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล")   
  3. บริษัทฯ อาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้ในระบบประมวลผลแบบคลาวด์ (Cloud Computing) โดยใช้บริการจากบุคคลที่สามไม่ว่าตั้งอยู่ในประเทศไทยหรือต่างประเทศ โดยบริษัทฯ ได้เข้าทำสัญญากับบุคคลดังกล่าวด้วยความระมัดระวังและพิจารณาถึงระบบรักษาความปลอดภัยในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ให้บริการระบบ Cloud Computing นั้นให้กับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ ใช้มาตรฐานระยะเวลาการเก็บข้อมูลใบสมัคร พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ("พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล")   ในกรณีที่บริษัทฯ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือข้อบังคับของสภาวิชาชีพอื่น ๆ ปฏิบัติตามคำสั่งศาล หรือต้องก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายเพื่อเข้ากระบวนการระงับข้อพิพาทใดๆ บริษัทฯ อาจจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามระยะเวลาของอายุความตามกฎหมายหรือข้อบังคับดังกล่าวกำหนด หรือจนกว่าข้อพิพาทนั้นจะถึงที่สุดแล้วแต่กรณี

มาตรการในการเก็บรักษาและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
  1. บริษัทฯ จะจัดการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลด้วยมาตรการไม่น้อยกว่าระดับที่กฎหมายกำหนด และด้วยระบบที่เหมาะสม เพื่อป้องกันและรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น เช่น ใช้โปรโตคอลดความปลอดภัย (Secure Sockets Layer: SSL) ปกป้องด้วยไฟร์วอลล์ รหัสผ่าน และมาตรการทางเทคนิคอื่นๆ สำหรับการเข้ารหัสข้อมูลผ่านทางอินเตอร์เน็ต และจัดเก็บในสถานที่ที่มีระบบป้องกันการเข้าถึงที่จำกัดบุคคลที่สามารถเข้าถึงได้สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปแบบเอกสาร
  2. บริษัทฯ จำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจจะเข้าถึงได้โดยพนักงาน ตัวแทน คู่ค้า หรือบุคคลภายนอก การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกจะสามารถทำได้ตามเท่าที่กำหนดไว้หรือตามคำสั่ง ซึ่งบุคคลภายนอกจะต้องมีหน้าที่ในการรักษาความลับและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  3. บริษัทฯ จัดให้มีวิธีการทางเทคโนโลยีเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้รับอนุญาต
  4. บริษัทฯ มีระบบตรวจสอบเพื่อจัดการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่มีความจำเป็นในการดำเนินการของบริษัทฯ
  5. ในกรณีที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวบริษัทฯ จะจัดให้มีมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลเอกสารและข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ในด้านการเข้าถึงและควบคุมการใช้งาน มีระบบการใช้งานและระบบสำรองพร้อมทั้งแผนสำหรับกรณีฉุกเฉิน และมีการตรวจสอบประเมินความเสี่ยงของระบบอย่างสม่ำเสมอ
การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

     ในบางกรณี บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ บริษัทฯ อาจดำเนินการดังกล่าวได้หลังจากที่ได้แจ้งกับท่านถึงวัตถุประสงค์ของการดำเนินการดังกล่าว และได้รับการยินยอมจากท่านแล้ว โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจไม่เพียงพอของประเทศปลายทาง

     บริษัทฯ สามารถโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปได้โดยไม่ต้องขอความยินยอมจากท่านในกรณีที่การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศนั้นเป็นไปเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อเป็นการป้องกัน หรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย สุขภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น หรือเป็นไปตามข้อกำหนดในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562