โรคปอดในเด็ก โรคร้ายที่พ่อแม่ควรระวัง

Lung Diseases in Children TH

โรคในเด็กไม่ว่าจะเป็นโรคไหน ก็ถือว่าเป็นอันตรายต่อพัฒนาการของเด็กทั้งนั้น ซึ่งโรคยอดฮิตอีกโรคหนึ่งที่มักพบเจอในเด็ก คือ โรคปอด มีความร้ายแรงแตกต่างกันในแต่ละคน พ่อแม่ของเด็กๆควรระมัดระวังความเสี่ยงต่างๆที่อาจทำให้เกิดขึ้นได้ เพราะโรคเหล่านี้สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุมากๆ บทความนี้จะมาไขข้อสงสัยว่าโอกาสเกิด หรือความเสี่ยงมีอะไรบ้างและเราจะป้องกันลูกรักได้อย่างไรให้ห่างไกลจากโรคปอดในเด็ก

ประเภทของโรคปอดในเด็กที่เกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง

1. โรคปอดบวม (Pneumonia) โรคยอดฮิตในเด็ก

    • สาเหตุ: เกิดจากการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือเชื้อรา
    • อาการ: ไข้สูง ไอ เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก หายใจเร็ว หรือมีเสียงหายใจหวีด
    • การรักษา: รักษาตามสาเหตุที่เกิด เช่น การใช้ยาปฏิชีวนะในกรณีติดเชื้อแบคทีเรีย และการพักผ่อนเพียงพอ

2. หลอดลมอักเสบ (Bronchitis)

    • สาเหตุ: เกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือการระคายเคืองในหลอดลม
    • อาการ: ไอแห้งหรือไอมีเสมหะ หายใจมีเสียงหวีด หรือมีอาการเจ็บหน้าอก
    • การรักษา: ส่วนใหญ่รักษาตามอาการ เช่น ให้ยาลดไข้ การสูดไอน้ำอุ่น และการดื่มน้ำมากขึ้น

3. โรคหืด (Asthma)

    • สาเหตุ: เกิดจากปัจจัยทางพันธุกรรมและสิ่งกระตุ้นภายนอก เช่น ฝุ่น ควันบุหรี่ หรือสารก่อภูมิแพ้
    • อาการ: หายใจลำบาก หายใจมีเสียงหวีด ไอเรื้อรัง โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนหรือหลังออกกำลังกาย
    • การรักษา: ใช้ยาขยายหลอดลมและยาควบคุมอาการหืด รวมถึงหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ก่อให้เกิดอาการ

4. โรคปอดเรื้อรังจากการคลอดก่อนกำหนด (Bronchopulmonary Dysplasia - BPD)

    • สาเหตุ: เกิดจากการคลอดก่อนกำหนดที่ทำให้ปอดพัฒนาไม่สมบูรณ์
    • อาการ: หายใจลำบาก หายใจเร็ว หายใจมีเสียงหวีด และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
    • การรักษา: ดูแลด้วยออกซิเจนเสริม ยาขยายหลอดลม และการบำรุงโภชนาการ

สาเหตุของโรคปอดในเด็ก

  • การติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย: เชื้อไวรัสที่พบบ่อย ได้แก่ ไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus) และไข้หวัดใหญ่ ส่วนแบคทีเรียที่พบบ่อย ได้แก่ เชื้อ Streptococcus pneumoniae
  • ปัจจัยทางพันธุกรรม: เช่น โรคหืด ซึ่งมีโอกาสถ่ายทอดทางพันธุกรรม
  • มลพิษทางอากาศ: เช่น ฝุ่นละออง PM2.5 ควันบุหรี่ และมลพิษในอากาศ
  • การคลอดก่อนกำหนด: ทำให้ปอดของทารกยังพัฒนาไม่เต็มที่

อาการที่ควรเฝ้าระวังโรคปอดในเด็ก

  • ไอเรื้อรัง โดยเฉพาะเวลากลางคืนจะไอมากกว่าปกติ
  • หายใจหอบเหนื่อย หายใจแรง หรือมีเสียงหวีดขณะหายใจ
  • ไข้สูงร่วมกับอาการไอและหายใจลำบาก
  • ริมฝีปากหรือเล็บเปลี่ยนเป็นสีม่วงหรือน้ำเงิน

หากเด็กมีอาการเหล่านี้ ผู้ปกครองควรพาไปพบแพทย์ทันที

การวินิจฉัยโรคปอดในเด็ก

แพทย์จะทำการตรวจร่างกายและซักประวัติเด็ก รวมถึงตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น การเอกซเรย์ปอด การตรวจเสมหะ หรือการตรวจออกซิเจนในเลือด เพื่อวิเคราะห์สาเหตุและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับเด็กแต่ละคน ซึ่งแต่ละเคสจะมีความแตกต่างกันและความหนักของอาการแตกต่างกันเช่นเดียวกัน การไปพบแพทย์อย่างทันท่วงที จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด

การรักษาโรคปอดในเด็ก มีวิธีไหนบ้าง

  • การใช้ยา: เช่น ยาปฏิชีวนะ ยาขยายหลอดลม หรือยาลดการอักเสบ
  • การใช้ออกซิเจนเสริม: สำหรับเด็กที่มีปัญหาหายใจลำบากมาก
  • การรักษาตามอาการ: การให้เด็กพักผ่อน ดื่มน้ำมาก ๆ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์

การป้องกันโรคปอดในเด็ก

  • การฉีดวัคซีน: เช่น วัคซีนไข้หวัดใหญ่ วัคซีนปอดบวม และวัคซีนไวรัส RSV
  • หลีกเลี่ยงมลพิษทางอากาศ: หลีกเลี่ยงการสัมผัสควันบุหรี่ ฝุ่นละออง และควันจากการเผาไหม้
  • การล้างมือบ่อย ๆ: เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัส
  • การเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: โดยให้เด็กได้รับอาหารที่มีประโยชน์และนอนหลับเพียงพอ

โรคปอดในเด็กเป็นปัญหาสุขภาพที่ควรได้รับความใส่ใจ เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมของเด็ก ผู้ปกครองควรเฝ้าระวังอาการที่อาจเกิดขึ้น และพาเด็กไปพบแพทย์ทันทีหากมีอาการผิดปกติ นอกจากนี้ การป้องกันโรคด้วยการฉีดวัคซีน หลีกเลี่ยงมลพิษ และส่งเสริมสุขภาพร่างกายของเด็กอย่างเหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคปอดในเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

เราพร้อมให้การสนับสนุนข้อมูลทางวิชาการแก่สถานประกอบการ ให้หัวข้อต่างๆ ทั้งในด้านสุขภาพและด้านอาชีวเวชศาสตร์ ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ มอบบริการที่ใส่ใจ รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ลูกค้าทุกท่านพึงพอใจและได้ประโยชน์สูงสุด
ตรวจสุขภาพครั้งใด.. นึกถึง โรงพยาบาลซีเมด ลีฟวิ่งแคร์ เราไม่เคยหยุดนิ่ง เพื่อสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

โทร.: 0-2199-2111 ต่อ 161 แผนกการตลาด

หรือ 081-358-6493 (คุณอ้น), 086-368-5317 (คุณไอซ์)

อีเมล: info@semed.co.th

LINE: @semed

Facebook: SEMed living care hospital