รู้ก่อนสาย! โรคไข้หวัดใหญ่ ภัยร้ายอันตรายถึงชีวิต

Influenza Th

โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza) เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจเฉียบพลันที่เกิดจากไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Influenza virus) ซึ่งเป็นไวรัสในตระกูล Orthomyxoviridae โรคนี้สามารถแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วและส่งผลกระทบทั้งในระดับบุคคลและสาธารณสุขทั่วโลก โดยเฉพาะในฤดูฝนหรือฤดูหนาวที่อุณหภูมิลดต่ำลง โรคนี้มักสร้างความสับสนกับโรคไข้หวัดธรรมดา (Common Cold) เนื่องจากมีอาการที่คล้ายกัน อย่างไรก็ตาม ไข้หวัดใหญ่มีความรุนแรงมากกว่าและสามารถนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้ง่าย

สาเหตุและกลไกการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่

ไข้หวัดใหญ่เกิดจากไวรัสไข้หวัดใหญ่ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ชนิดหลัก ได้แก่ ไวรัสชนิด A, B และ C โดยไวรัสชนิด A และ B เป็นชนิดที่มีความสำคัญทางการแพทย์ เนื่องจากสามารถก่อให้เกิดการระบาดในวงกว้างได้ ส่วนไวรัสชนิด C ก่อโรคในมนุษย์ได้แต่มีความรุนแรงน้อยกว่า

ไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A

  • พบในมนุษย์ นก และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่น ๆ
  • มีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการระบาดใหญ่ (Pandemic) เช่น H1N1 หรือ H5N1

ไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด B

  • พบเฉพาะในมนุษย์
  • มักก่อให้เกิดการระบาดตามฤดูกาล (Seasonal Outbreak)

ไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด C

  • ก่อโรคในมนุษย์ในระดับความรุนแรงต่ำ

ไวรัสไข้หวัดใหญ่แพร่กระจายผ่านละอองฝอยที่เกิดจากการไอ จาม หรือพูดคุยในระยะใกล้ หรือจากการสัมผัสพื้นผิวที่ปนเปื้อนไวรัสและนำมือไปสัมผัสดวงตา จมูก หรือปาก

อาการของโรคไข้หวัดใหญ่

อาการของโรคไข้หวัดใหญ่จะแสดงออกภายใน 1-4 วันหลังการติดเชื้อ โดยอาการที่พบได้บ่อย ได้แก่:

  • ไข้สูงอย่างเฉียบพลัน
  • หนาวสั่นและอ่อนเพลีย
  • ปวดศีรษะและปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
  • เจ็บคอ ไอแห้ง
  • คัดจมูก น้ำมูกไหล
  • อาการคลื่นไส้ อาเจียน (พบได้บ่อยในเด็ก)

ในบางราย โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน และโรคปอดเรื้อรัง อาการอาจรุนแรงขึ้นจนถึงขั้นปอดอักเสบ (Pneumonia) หรือระบบหายใจล้มเหลวได้

การวินิจฉัยโรคไข้หวัดใหญ่

การวินิจฉัยไข้หวัดใหญ่สามารถทำได้โดยใช้วิธีการตรวจแยกเชื้อไวรัสจากสารคัดหลั่งในโพรงจมูกหรือคอ โดยวิธีที่นิยมได้แก่:

  • การตรวจแอนติเจนแบบเร็ว (Rapid Influenza Diagnostic Test – RIDT): รู้ผลภายใน 15-30 นาที แต่มีความแม่นยำต่ำ
  • การเพาะเชื้อไวรัส: ใช้เวลาหลายวัน แต่มีความแม่นยำสูง
  • การตรวจแบบ RT-PCR (Reverse Transcription Polymerase Chain Reaction): มีความไวสูงและสามารถแยกชนิดของไวรัสได้อย่างแม่นยำ

การรักษา

โรคไข้หวัดใหญ่ส่วนใหญ่จะหายได้เองภายใน 7-10 วัน แต่ในบางกรณีโดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง แพทย์อาจให้ยาต้านไวรัส เช่น Oseltamivir (Tamiflu) หรือ Zanamivir เพื่อยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัสและลดความรุนแรงของอาการ

คำแนะนำในการดูแลผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่:

  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
  • รับประทานยาลดไข้ เช่น พาราเซตามอล (หลีกเลี่ยงการใช้แอสไพรินในเด็ก)
  • หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดผู้อื่นเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ

การป้องกันการเป็นโรคไข้หวัดใหญ่

วิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่คือ การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ซึ่งควรฉีดเป็นประจำทุกปีเนื่องจากไวรัสมีการกลายพันธุ์อยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีวิธีป้องกันอื่น ๆ ได้แก่:

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วยไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
  • ล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาดบ่อย ๆ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์เป็นประจำ
  • ใช้หน้ากากอนามัยเมื่อต้องอยู่ในที่ชุมชนหรือที่อับอากาศ
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า จมูก และปากโดยไม่จำเป็น

ภาวะแทรกซ้อนขณะร่างกายอ่อนแอ

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้จากไข้หวัดใหญ่ ได้แก่:

  • ปอดบวม (Pneumonia): เป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยที่สุดและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
  • การกำเริบของโรคประจำตัว: เช่น โรคหอบหืด โรคหัวใจ หรือโรคปอดเรื้อรัง
  • การติดเชื้อในหู (Otitis media): มักพบในเด็กเล็ก
  • สมองอักเสบ (Encephalitis): เป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้ยากแต่มีความรุนแรงสูง

โรคไข้หวัดใหญ่เป็นโรคติดต่อที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชากรทั่วโลกอย่างร้ายแรง การทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุ อาการ การวินิจฉัย การรักษา และการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่จึงเป็นสิ่งสำคัญ การปฏิบัติตามคำแนะนำด้านสุขอนามัยและการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกปีจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและการแพร่ระบาดในชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โรงพยาบาลซีเมด ลีฟวิ่งแคร์ ให้บริการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน

โรงพยาบาลซีเมด ลีฟวิ่งแคร์ (SEMed Living Care Hospital) ผู้ให้บริการตรวจสุขภาพด้านอาชีวเวชศาสตร์ครบวงจร ให้บริการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน ตั้งแต่การตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยงในการทำงาน บริการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และบริการตรวจสุขภาพนอกสถานที่แก่สถานประกอบการที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ด้วยบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน นำเทคโนโลยีมาบริหารจัดการข้อมูล เพื่อความถูกต้องรวดเร็ว สามารถส่งผลการตรวจได้ตรงตามความต้องการของผู้รับบริการ ซึ่งสามารถดูผลตรวจสุขภาพผ่านระบบออนไลน์ได้ 

เราพร้อมให้การสนับสนุนข้อมูลทางวิชาการแก่สถานประกอบการ ให้หัวข้อต่างๆ ทั้งในด้านสุขภาพและด้านอาชีวเวชศาสตร์ ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ มอบบริการที่ใส่ใจ รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ลูกค้าทุกท่านพึงพอใจและได้ประโยชน์สูงสุด 

ตรวจสุขภาพครั้งใด.. นึกถึง โรงพยาบาลซีเมด ลีฟวิ่งแคร์ เราไม่เคยหยุดนิ่ง เพื่อสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 

โทร.: 0-2199-2111 ต่อ 161 แผนกการตลาด

หรือ 081-358-6493 (คุณอ้น), 086-368-5317 (คุณไอซ์)

อีเมล: info@semed.co.th

LINE: @semed

Facebook: SEMed living care hospital