โปรแกรมตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก

ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี Pap Smear ราคา 800 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

           การตรวจ Pap Smear หรือ Pap Test เป็นวิธีคัดกรองมะเร็งปากมดลูก โดยจะเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อจากบริเวณปากมดลูกไปตรวจว่ามีเซลล์มะเร็งหรือเซลล์ผิดปกติที่กำลังกลายเป็นมะเร็งหรือไม่
ขั้นตอนการตรวจ Pap Smear
            ผู้ป่วยต้องนอนหงาย ขึ้นขาหยั่ง แล้วแพทย์จะใช้แปรงขนาดเล็กเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อจากบริเวณปากมดลูก ซึ่งการเก็บตัวอย่างสามารถทำได้ภายในคราวเดียวกันกับการตรวจภายใน จากนั้นตัวอย่างเนื้อเยื่อจะถูกนำไปทดสอบได้ 2 วิธีการ
  1. วิธีดั้งเดิม โดยการป้ายเซลล์หรือเนื้อเยื่อที่ได้ลงบนแผ่นกระจก หลังจากนั้นนำไปย้อมสีและตรวจด้วยกล้องขยาย เพื่อตรวจดูความผิดปกติของเซลล์
  2. นำเนื้อเยื่อที่ได้ไปใส่ในสารละลาย (Liquid) แล้วนำไปผ่านกระบวนการกรองและปั่นต่างๆ จนได้เซลล์ซึ่งปราศจากสิ่งเจือปนอื่น หลังจากนั้นนำเซลล์ที่ได้มาป้ายบนแผ่นสไลด์ย้อมสีตรวจดูด้วยกล้องขยายเช่นเดียวกับวิธีแรก  

ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี Thin Prep ราคา 1,400 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

         Thin Prep Pap Test คือ วิธีการตรวจคัดกรองหาความเสี่ยงโรคมะเร็งปากมดลูกด้วยการเก็บตัวอย่างเซลล์ด้วยของเหลว แล้วเก็บตัวอย่างเซลล์เยื่อบุผิวบริเวณปากมดลูกด้วยอุปกรณ์พิเศษที่คล้ายกับแปรงขนาดเล็ก จากนั้นนำตัวอย่างเซลล์เก็บไว้ในน้ำยารักษาสภาพเซลล์ แล้วส่งไปยังห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ หากตรวจพบความผิดปกติที่เซลล์เยื่อบุดังกล่าว อาจบ่งบอกถึงความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งปากมดลูกในอนาคตได้
ข้อดีของการตรวจ Thin Prep ดีกว่าการตรวจ Pap Smear อย่างไร
         การตรวจ Thin Prep จะให้ผลตรวจที่ละเอียด แม่นยำ และรอผลสั้นกว่าการตรวจ Pap Smear เพราะการตรวจ Thin Prep เมื่อมีการเก็บเซลล์เยื่อบุผิวบริเวณปากมดลูกแล้ว จะมีการนำตัวอย่างเซลล์ไปแช่ไว้ในน้ำยารักษาสภาพเซลล์ และคัดแยกตัวอย่างเซลล์ที่ปนเปื้อนหรือบดบังเซลล์เยื่อบุผิวบริเวณปากมดลูกออก ซึ่งการคัดกรองเซลล์เยื่อบุผิวที่ละเอียดมากขึ้น จะทำให้แพทย์และเจ้าหน้าที่เห็นตัวอย่างเซลล์เยื่อบุผิวบริเวณปากมดลูกชัดเจนขึ้น ส่งผลให้การแปลผลมีความแม่นยำ ลดโอกาสเกิดผลตรวจลวงได้ นอกจากนี้แพทย์ยังสามารถใช้ตัวอย่างเซลล์เยื่อบุผิวที่ปากมดลูกที่ได้จากการตรวจ Thin Prep ไปใช้ในการตรวจหาเชื้อไวรัส HPV เพิ่มเติมได้โดยไม่ต้องเก็บตัวอย่างเซลล์เพิ่มอีกด้วย
ควรตรวจ Thin Prep เมื่ออายุเท่าไร
          การตรวจ Thin Prep สามารถเริ่มตรวจได้ตั้งแต่อายุ 21 ปี หรือ 3 ปีหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก
ควรตรวจ Thin Prep บ่อยแค่ไหน
          หลังจากตรวจ Thin Prep ครั้งแรกแล้ว หากผลตรวจออกมาไม่พบความผิดปกติ โดยทั่วไปแพทย์จะให้แนะนำให้ผู้เข้ารับบริการเข้ามาตรวจ Thin Prep ซ้ำอีกทุก 3 ปีอย่างสม่ำเสมอ แต่หากตรวจพบความผิดปกติ ก็อาจต้องมาตรวจเร็วกว่านั้น และรับการตรวจที่ละเอียดด้วยวิธีอื่นๆ เพิ่มเติมอีก ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์
ฉีดวัคซีน HPV แล้วต้องตรวจ Thin Prep ไหม
            ยังต้องตรวจอยู่เช่นเดิม เพราะวัคซีน HPV ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัส HPV ซึ่งเป็นตัวการทำให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูกได้ทุกสายพันธุ์ ผู้หญิงทุกคนจึงยังต้องมารับการตรวจ Thin Prep ตามกำหนดการที่แพทย์แนะนำอย่างสม่ำเสมอ
ตรวจ Thin Prep พร้อมฉีดวัคซีน HPV ได้ไหม
            สามารถตรวจและฉีดวัคซีนภายในวันเดียวกันได้ การฉีดวัคซีน HPV ภายในวันเดียวกันจะไม่ได้ทำให้ผลตรวจ Thin Prep คลาดเคลื่อน ความสำคัญของการตรวจ Thin Prep คือความสม่ำเสมอในการมาตรวจกับแพทย์ตามกำหนดการ และไม่ควรชะล่าใจว่าตนเองมีความเสี่ยงน้อยจึงไม่ตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูก เพราะหากตรวจพบในระยะที่เชื้อมะเร็งลุกลามรุนแรงอาจยากต่อการรักษาให้หายได้โดยไม่กระทบต่อสุขภาพส่วนอื่นๆขั้นตอนการตรวจ Thin Prep
ขั้นตอนการตรวจ Thin Prep
  1.  ผู้เข้ารับบริการถอดกางเกงหรือกระโปรง ตามด้วยกางเกงชั้นใน จากนั้นขึ้นนั่งบนเตียงขาหยั่ง
  2. หลังจากนั้นแพทย์จะสอดอุปกรณ์คล้ายกับแปรงขนาดเล็กเข้าไปในปากช่องคลอด ลึกถึงตำแหน่งปากมดลูก
  3. แพทย์จะป้ายเก็บตัวอย่างเซลล์เนื้อเยื่อบริเวณดังกล่าวออกมา แล้วถอดหัวแปรงใส่ลงไปในกระบอกใส่น้ำยารักษาสภาพเซลล์ หมุนหัวแปรงไปมาในน้ำยาประมาณ 10 นาที4. นำกระบอกน้ำยาส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ต่อไป
การเตรียมตัวก่อนตรวจ
  • ทำความสะอาดช่องคลอดและเช็ดให้แห้ง
  • งดการตรวจภายในก่อนเข้ารับบริการ 24 ชั่วโมง
  • ไม่จำเป็นต้องโกนขนอวัยวะเพศก่อนตรวจ เพราะการโกนขนอาจทำให้ผิวปากช่องคลอดระคายเคืองหรือเกิดการติดเชื้อ
  • สวมกระโปรงหรือกางเกงที่ถอดออกง่าย เนื่องจากการเก็บตัวอย่างเยื่อบุผิวบริเวณปากช่องคลอดจะต้องมีขึ้นนอนบนเตียงขาหยั่ง
  • นัดหมายวันตรวจอย่าให้ตรงกับวันที่มีประจำเดือน หรือนัดหมายในช่วงหลังประจำเดือนรอบล่าสุดหมดไปแล้วประมาณ 10-20 วัน
  • งดมีเพศสัมพันธ์ งดใช้ยาสวน สารหล่อลื่นในช่องคลอด หรือยาทาบริเวณปากช่องคลอด 48 ชั่วโมงก่อนรับบริการ
  • งดใช้ผลิตภัณฑ์สเปรย์ แป้ง ครีม ยาฆ่าเชื้ออสุจิในช่องคลอด ยาเหน็บหรือยาสอด และงดการสวนอวัยวะเพศด้วยน้ำหรือของเหลวอื่นทุกชนิด หรืองดการฉีดผลิตภัณฑ์ดับกลิ่นจุดซ่อนเร้นก่อนมารับบริกา
  • งดการใช้ยากิน ยาสวน หรือยาทาบริเวณปากช่องคลอด 2-3 วัน หรือปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการงดยาล่วงหน้าก่อนรับบริการ
สอบถามเพิ่มเติม
🏥  ศูนย์วิจัยทางการแพทย์อาชีวเวชศาสตร์ไทย
        โรงพยาบาลซีเมด ลีฟวิ่งแคร์
เปิดบริการ วันจันทร์ – วันเสาร์ เวลา 08.00 – 17:00 น.
📞02-199-2111 ต่อ 0    
📞081-358-6493 (คุณอ้น)
📞086-368-5317 (คุณไอซ์)

ส่งข้อความเพื่อจองแพ็คเกจนี้!

    This site is protected by reCAPTCHA and the Google Privacy Policy and Terms of Service apply.

    แชร์