คาร์บคืออะไร ทำไมต้องนับคาร์บ?

คาร์บคืออะไร

คุณเคยสงสัยกันหรือไม่ว่า คาร์บคืออะไร ทำไมต้องนับคาร์บ? แล้วต้องเลือกกินยังไงให้ดีต่อร่างกาย?

คาร์บ คืออะไร ?

               “คาร์บ” ย่อมาจากคำว่า “คาร์โบไฮเดรต” เป็นหนึ่งในสารอาหารหลักที่จำเป็นต่อร่างกาย พบมากในอาหารกลุ่มข้าว-แป้ง ผัก ผลไม้ นม ขนมและเครื่องดื่มที่เติมน้ำตาล

เราสามารถแบ่งคาร์โบไฮเดรตออกได้เป็นสองแบบ คือ

  1. คาร์โบไฮเดรตคุณภาพดี: คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง โฮลเกรน ถั่ว ผักใบเขียว ซึ่งมีไฟเบอร์สูงและช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด
  2. คาร์โบไฮเดรตคุณภาพต่ำที่ควรหลีกเลี่ยง: คาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว เช่น ขนมหวาน น้ำตาลทราย และขนมปังขาว ซึ่งทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงเร็ว นำไปสู่โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด

ทำไมต้องนับคาร์บ ?

                 เมื่อเรารับประทานคาร์โบไฮเดรต ร่างกายจะย่อยเป็นน้ำตาลเพื่อใช้เป็นพลังงาน หากใช้ไม่หมดน้ำตาลส่วนเกินจะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันและสะสมในร่างกาย ทำให้น้ำหนักเพิ่มและเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่างๆ (โรค NCDs) เช่น โรคเบาหวาน ความดัน หลอดเลือดหัวใจ เป็นต้น การลดหรือควบคุมการบริโภคคาร์โบไฮเดรต (นับคาร์บ) จะกระตุ้นให้ร่างกายดึงไขมันสะสมมาใช้เป็นพลังงาน ช่วยควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ สุขภาพแข็งแรง

ที่สำคัญเมื่อปริมาณน้ำตาลในเลือดลดลงจะลดการอักเสบในเส้นเลือดทำให้ หลอดเลือดมีสุขภาพที่ดีขึ้นด้วย

วิธีง่าย ๆ ในการเลือกคาร์บที่ดี

1. เลือกคาร์บดี “คาร์บดี คือ คาร์บที่ให้พลังงานนาน และมีใยอาหารสูง ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลในเลือด ลดการสวิงของอินซูลิน และช่วยให้อิ่มนานขึ้น”

      ตัวอย่างของคาร์บดี (คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน)

  • ข้าวกล้อง: มีใยอาหารมากกว่าข้าวขาวถึง 3 เท่า
  • ควินัว: แหล่งโปรตีนจากพืชที่เต็มไปด้วยใยอาหาร
  • ผลไม้สด: เช่น แอปเปิ้ล เบอร์รี่ (เลือกผลไม้ทั้งลูกแทนน้ำผลไม้)
  • ผักใบเขียว: เช่น บรอกโคลี ผักโขม ช่วยเพิ่มใยอาหารในมื้ออาหาร

2. ลดการกินคาร์บคุณภาพต่ำ (คาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว)

      ตัวอย่างคาร์บที่ควรลด:
  • ขนมปังขาว: ย่อยเร็วและให้พลังงานเพียงระยะสั้น
  • ขนมหวาน น้ำอัดลม: เพิ่มน้ำตาลและพลังงานเกินจำเป็น
  • อาหารฟาสต์ฟู้ด: เช่น มันฝรั่งทอด ขนมกรุบกรอบ
3. คุมปริมาณคาร์บให้เหมาะสม
                   แม้คาร์บดีจะมีประโยชน์ แต่การกินมากเกินไปก็ทำให้น้ำหนักขึ้นได้ ดังนั้นจึงควรควบคุมปริมาณคาร์บให้เหมาะสมในแต่ละมื้อ โดยวิธีคุมปริมาณคาร์บนั้น เราจะใช้สูตร Harris–Benedict equation ซึ่งจะนำมาเล่าต่อในโพสต์หน้า
สัดส่วนการกินต่อมื้ออาหาร

เราพร้อมให้การสนับสนุนข้อมูลทางวิชาการแก่สถานประกอบการ ให้หัวข้อต่างๆ ทั้งในด้านสุขภาพและด้านอาชีวเวชศาสตร์ ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ มอบบริการที่ใส่ใจ รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ลูกค้าทุกท่านพึงพอใจและได้ประโยชน์สูงสุด
ตรวจสุขภาพครั้งใด.. นึกถึง โรงพยาบาลซีเมด ลีฟวิ่งแคร์ เราไม่เคยหยุดนิ่ง เพื่อสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โทร.: 0-2199-2111 ต่อ 161 แผนกการตลาด
หรือ 081-358-6493 (คุณอ้น), 086-368-5317 (คุณไอซ์)
อีเมล: [email protected]
LINE: @semed
Facebook: SEMed living care hospital


แหล่งที่มา: กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)