เรียนรู้ โรคตับ! ภัยร้ายที่ทำลายชีวิตคนจำนวนมาก

Tap TH

โรคตับเป็นหนึ่งในโรคร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชากรทั่วโลก หากไม่ได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที โรคตับสามารถพัฒนาไปสู่ภาวะที่เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ บทความนี้จะพาผู้อ่านไปรู้จักกับโรคตับในแง่มุมต่าง ๆ รวมถึงสาเหตุ อาการ การป้องกัน และการรักษา เพื่อให้ผู้อ่านมีความรู้ความเข้าใจในการดูแลสุขภาพตับของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โรคตับคืออะไร

ตับเป็นอวัยวะที่มีบทบาทสำคัญในร่างกาย โดยทำหน้าที่กรองสารพิษ สังเคราะห์โปรตีน และช่วยในการย่อยไขมัน โรคตับเกิดขึ้นเมื่อเนื้อเยื่อตับเกิดความเสียหายหรือมีการอักเสบ ทำให้การทำงานของตับผิดปกติ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท เช่น โรคตับอักเสบ ไขมันพอกตับ และตับแข็ง เป็นต้น

สาเหตุของโรคตับ มีอะไรบ้าง มาดู

โรคตับสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดยปัจจัยที่พบบ่อยได้แก่:

  • การติดเชื้อไวรัส: ไวรัสตับอักเสบชนิด B, และ C เป็นสาเหตุสำคัญของโรคตับอักเสบ
  • การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป: การบริโภคแอลกอฮอล์ในปริมาณมากและต่อเนื่องสามารถทำลายเซลล์ตับได้
  • ไขมันพอกตับ: การสะสมของไขมันในตับจากการบริโภคอาหารที่มีไขมันสูงและขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • สารพิษและยา: การได้รับสารพิษหรือการใช้ยาบางชนิดในปริมาณมากหรือเป็นเวลานานสามารถทำให้ตับเสียหายได้เพราะตับเป็นตัวช่วยกรองสารพิษต่างๆที่เข้าสู่ร่างกาย แต่เมื่อมากเกินไปอาจทำให้ตับพังได้
  • การรับประทานสมุนไพรบางชนิดติดต่อกันเป็นเวลานาน การทานสมุนไพรจะเป็นต้องอยู่ในการควบคุมของแพทย์ ไม่ใช่ว่าจะต้มกินได้เลยตามใจชอบเพราะสมุนไพรจำเป็นต้องทำเป็นตำรับยา มีส่วนผสมของสมุนไพรมากกว่าหนึ่งชนิด เพื่อเป็นตัวด้านการเกิดพิษของสมุนไพร
pain and stomache old senior asian grandfather in patient unifor

อาการของโรคตับ ที่ควรรู้

ในระยะแรก โรคตับอาจไม่มีอาการที่ชัดเจน แต่เมื่อโรคพัฒนาไป อาจมีอาการดังต่อไปนี้:

  • เหนื่อยล้าและอ่อนเพลียมากกว่าปกติ แม้จะพักแล้วก็ตามก็ยังร็สึกไม่หาย
  • เบื่ออาหารและน้ำหนักลดอย่างมีนัยสำคัญกับอาการอ่อนเพลียอื่นๆ
  • ปวดท้องบริเวณด้านขวาบน ปวดแบบลึกร้าวไปจนถึงกลางหลัง บางคนแยกไม่ออกคิดว่าปวดไส้ติ่งอักเสบได้
  • ตัวเหลือง ตาเหลือง (ดีซ่าน) ดูเหลืองผิดปกติ ดูแล้วรู้เลยว่าไม่ปกติ
  • ท้องบวมและขาบวม ซึ่งไม่เกี่ยวกับการนอน นั่งหรือเดินนาน
  • เลือดออกง่ายและมีรอยช้ำง่ายกว่าปกติ

การป้องกันโรคตับ

การป้องกันโรคตับสามารถทำได้โดยการดูแลสุขภาพและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ดังนี้:

  1. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์: ลดหรือเลิกการดื่มแอลกอฮอล์เพื่อป้องกันการเกิดโรคตับแข็ง สาเหตุหลักของการเป็นโรคตับเป็นพิษคือเรื่องของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เลิกได้ควรเลิกเป็นดีที่สุด
  2. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูงเพราะอาจถ้าร่างกายไม่สามารถที่จะขับไขมันส่วนเกินออกได้ทัน ก็จะกลายเป็นโรคร้ายได้ อย่างโรคไขมันพอกตับ
  3. ออกกำลังกายเป็นประจำ: การออกกำลังกายช่วยลดความเสี่ยงของโรคไขมันพอกตับได้เป็นอย่างดี และยังช่วยเผาผลาญไขมันในหลอดเลือดได้ด้วย
  4. ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ: วัคซีนสามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบางชนิดได้
  5. ตรวจสุขภาพเป็นประจำ: การตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอช่วยให้สามารถวินิจฉัยโรคตับได้ในระยะเริ่มต้น

การรักษาโรคตับ

การรักษาโรคตับขึ้นอยู่กับชนิดและระยะของโรค โดยวิธีการรักษาอาจประกอบด้วย:

  • การใช้ยา: เพื่อควบคุมการอักเสบและป้องกันการลุกลามของโรค
  • การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต: การเลิกแอลกอฮอล์และปรับอาหารการกิน
  • การปลูกถ่ายตับ: ในกรณีที่ตับเสียหายอย่างรุนแรง การปลูกถ่ายตับอาจเป็นทางเลือกสุดท้าย

 

อ้างอิงจาก : https://www.sikarin.com/health/liver-cirrhosis

 

โรคตับเป็นปัญหาสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากสามารถนำไปสู่ภาวะที่เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ การดูแลสุขภาพตับโดยการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่กล่าวมาและตรวจสุขภาพเป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันโรคตับที่อาจเกิดขึ้นได้ หากพบอาการผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที เพื่อให้มีสุขภาพที่ดีและห่างไกลจากโรคตับ

เราพร้อมให้การสนับสนุนข้อมูลทางวิชาการแก่สถานประกอบการ ให้หัวข้อต่างๆ ทั้งในด้านสุขภาพและด้านอาชีวเวชศาสตร์ ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ มอบบริการที่ใส่ใจ รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ลูกค้าทุกท่านพึงพอใจและได้ประโยชน์สูงสุด
ตรวจสุขภาพครั้งใด.. นึกถึง โรงพยาบาลซีเมด ลีฟวิ่งแคร์ เราไม่เคยหยุดนิ่ง เพื่อสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โทร.: 0-2199-2111 ต่อ 161 แผนกการตลาด
หรือ 081-358-6493 (คุณอ้น), 086-368-5317 (คุณไอซ์)
อีเมล: info@semed.co.th
LINE: @semed
Facebook: SEMed living care hospital