เช็คด่วน! อาการแน่นหน้าอกแบบไหนอันตรายต่อชีวิต?

1 TH

อาการแน่นหน้าอกเป็นสัญญาณเตือนที่อาจเกิดจากหลายสาเหตุ ตั้งแต่เรื่องเล็กน้อยไปจนถึงภาวะที่ต้องการการรักษาอย่างเร่งด่วน การแยกแยะว่าอาการแน่นหน้าอกแบบไหนที่อันตรายจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้คุณสามารถดูแลตัวเองหรือคนรอบข้างได้อย่างเหมาะสมมากขึ้น หรือสามารถเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เกิดอาการแน่นหน้าอกได้

1. ลักษณะของอาการแน่นหน้าอกที่อันตราย

• อาการแน่นหน้าอกเฉียบพลันและรุนแรง

หากมีความรู้สึกเจ็บหน้าอกอย่างรุนแรง รู้สึกเหมือนมีของหนักกดทับ หรือรู้สึกบีบรัดบริเวณกลางหน้าอก อาการนี้อาจเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน (Heart Attack) ซึ่งต้องได้รับการรักษาทันที

• แน่นหน้าอกที่ร้าวไปส่วนอื่น

หากอาการแน่นหน้าอกแผ่ร้าวไปที่กราม ไหล่ แขน หรือหลัง โดยเฉพาะด้านซ้าย อาจบ่งบอกถึงปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจหรือหลอดเลือดหัวใจตีบตัน

• แน่นหน้าอกร่วมกับอาการอื่นๆ

เช่น หายใจลำบาก หน้ามืด เวียนศีรษะ เหงื่อออกมากผิดปกติ หรือคลื่นไส้ อาการเหล่านี้อาจบ่งชี้ถึงภาวะหัวใจล้มเหลวหรือโรคอื่นที่เกี่ยวข้องกับระบบหัวใจและหลอดเลือด

• แน่นหน้าอกหลังจากออกแรงหรือเครียด

หากอาการเกิดขึ้นหลังการออกแรง เช่น วิ่ง ยกของหนัก หรือเกิดจากความเครียด อาจเป็นสัญญาณของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (Angina)

2. สาเหตุอื่นของอาการแน่นหน้าอกที่ควรระวัง

นอกจากโรคหัวใจ อาการแน่นหน้าอกอาจเกิดจากสาเหตุอื่นได้ด้วย ซึ่งมีหลายโรคมากที่เกี่ยวข้องกับอาการแน่หน้าอก

  • โรคปอด
    เช่น ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอด (Pulmonary Embolism) หรือภาวะปอดรั่ว (Pneumothorax) ที่มักมีอาการเจ็บแน่นหน้าอกเฉียบพลันและหายใจลำบากร่วมด้วย
  • โรคกระเพาะอาหารและหลอดอาหาร
    เช่น กรดไหลย้อน (GERD) หรือภาวะหลอดอาหารอักเสบ ซึ่งอาจทำให้รู้สึกแน่นหน้าอกคล้ายอาการโรคหัวใจ
  • ความผิดปกติของกล้ามเนื้อหรือกระดูก
    เช่น การบาดเจ็บของกล้ามเนื้อหน้าอกหรือกระดูกซี่โครง อาการมักเกิดขึ้นเมื่อเคลื่อนไหวหรือกดบริเวณที่เจ็บ

3. การดูแลตัวเองเบื้องต้น

  • พักผ่อนและหายใจลึกๆ
    หากอาการไม่รุนแรง ให้ลองพักผ่อนในที่อากาศถ่ายเทสะดวก และทำการหายใจเข้าออกอย่างระมัดระวัง เข้าออกลึกๆเพื่อเป็นการเพิ่มออกซิเจนเข้าปอด ช่วยให้ร่างกายอาการดีขึ้น
  • รับประทานยา
    หากมีประวัติโรคหลอดเลือดหัวใจและแพทย์เคยสั่งจ่ายยา เช่น Nitroglycerin ควรรับประทานตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น ไม่ควรซ้อยากินเอง
  • รีบไปพบแพทย์
    หากอาการไม่ทุเลาหรือมีลักษณะที่กล่าวมาข้างต้น ควรรีบไปโรงพยาบาลทันที ไม่ควรชะล่าใจ

4. สัญญาณฉุกเฉินที่ควรโทรหา 1669 ทันที

  • เจ็บหรือแน่นหน้าอกนานเกิน 10 นาที
  • รู้สึกหายใจไม่ออก เหนื่อยง่ายผิดปกติ
  • หน้ามืดเป็นลมหรือหมดสติ
  • มีอาการแน่นหน้าอกร่วมกับอาการทางระบบประสาท เช่น ชักหรือพูดไม่ชัด

อาการแน่นหน้าอกอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงภาวะสุขภาพที่ร้ายแรง โดยเฉพาะหากมีอาการร่วมที่บ่งบอกถึงปัญหาหัวใจหรือปอด อย่าละเลยสัญญาณเตือนเหล่านี้ หากคุณหรือคนรอบข้างมีอาการดังกล่าว ควรรีบปรึกษาแพทย์หรือโทรขอความช่วยเหลือทันที การใส่ใจในสุขภาพและรับมืออย่างรวดเร็วอาจช่วยชีวิตคุณได้ทันท่วงที อัตราการเสียชีวิตด้วยโรคแน่นหน้าอก มีมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสอดคล้องกับการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งบางกรณีมีความเครียดร่วมด้วย


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 

โทร.: 0-2199-2111 ต่อ 161 แผนกการตลาด

หรือ 081-358-6493 (คุณอ้น), 086-368-5317 (คุณไอซ์)

อีเมล: info@semed.co.th 

LINE: @semed

Facebook: SEMed living care hospital