5 วิธีจัดการความเครียดอย่างง่าย ให้ชีวิตสมดุลกว่าเดิม

stress th

5 วิธีจัดการความเครียดอย่างง่าย ให้ชีวิตสมดุลกว่าเดิม

ความเครียดเป็นอีกหนึ่งภัยร้ายที่มีผลกระทบไม่เพียงแต่ที่สุขภาพจิตใจเท่านั้นยังส่งผลต่อสภาพร่างกายอีกด้วย หลายคนไม่ยอมรับว่าตัวเองกำลังเครียด หรือส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้ตัวว่ากำลังเครียดเรื่องอะไรอยู่ ทำให้การแก้ปัญหาเรื่องความเครียดเป็นเรื่องยากและยิ่งสมัยนี้ผู้คนจำนวนไม่น้อยมีภาวะความเครียดสะสมจนทำให้จิตใจไม่สมดุล เป็นผลต่อเนื่องให้เกิดได้ตั้งแต่โรคซึมเศร้า โรคเครียด โรคย้ำคิดย้ำทำหรือโรคทางจิตต่างๆ เรามาดูกันว่าจะใช้ชีวิตอย่างไรเพื่อขจัดความเครียดและมีความสมดุลทางความเครียดที่ดีมากขึ้นกัน

3 ปัจจัยที่ส่งผลต่อความเครียด

1.ปัจจัยทางด้านส่วนบุคคลความเครียด

ปัจจัยด้านส่วนบุคคล สามารถแยกย่อยได้เป็นทั้งทางด้านกายภาพและจิตใจอารมณ์ โดยทางด้านร่างกายอาจเกิดจากความเจ็บป่วย เช่น มีโรคประจำตัวต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง โรคเรื้อรัง เป็นตัน และปัจจัยทางด้านอารมณ์จิตใจ หมายถึงภาวะการเติบโตทางด้านจิตใจของเรา การควบคุมอารมณ์ในสถานการณ์ที่ไม่เป็นไปดั่งใจ หรือแม้กระทั้งการเจอปัญหาแล้วไม่สามารถปล่อยวางได้ก็ส่งผลทำให้เกิดความเครียดได้เช่นกัน

2.ปัจจัยทางด้านสิ่งแวดล้อมส่งผลต่อความเครียด

สิ่งแวดล้อมมีผลเป็นอย่างมากต่อสภาพจิตใจและความเครียด สามารถเห็นได้ง่าย ลองนึกภาพคนที่อยู่ในชุมชนแออัด มีแต่คนติดยาเสพติด เขาก็จะมีแต่ความกลัว หวาดระแวง ส่งผลไปสู่การเป็นความเครียดได้ คุณภาพชีวิตที่ลดลง ซึ่งแตกต่างจากคนที่มีบ้านที่สวยงาม อยู่ในพื้นที่ดีๆ มีพื้นที่สีเขียวให้ได้พักผ่อน มีการดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ คุณภาพชีวิตของคนสองกลุ่มนี้จะแตกต่างกันมากและความเครียดก็จะต่างกันเช่นเดียวกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นกับทุกคน แต่ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่มีความเป็นไปได้

3.ปัจจัยทางด้านสังคม รวมไปถึงสถานการณ์ที่คาดเดาได้ยาก

สังคมมีความสำคัญมากต่อความเครียด อย่าลืมว่ามนุษย์เป็นสัตย์สังคมแม้ว่าบางคนบอกว่าไม่สนใจการออกไปเข้าสังคมกับเพื่อนๆเท่าไหร่ แต่อย่าลืมว่าแม้ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนคุณก็สามารถเข้าถึงสังคมได้ตลอด แล้วถ้ายิ่งคนที่จิตใจอ่อนไหวง่ายโอกาสที่จะโดนสังคมกลืนกิน จนสร้างเป็นความเครียดยิ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้มาก อย่างเช่น ตอนนี้ทุกคนมีโซเชียลมีเดียเป็นอีกช่องทางที่ทำให้เราเห็นชีวิตของคนอื่นได้ง่ายมากๆ บางคนถึงขั้นเอามาเปรียบเทียบกับชีวิตตัวเอง เกิดเป็นความไม่สบายใจ จนอาจส่งผลกลายเป็นความเครียดได้ง่ายมากๆ ลามไปถึงสถานการณ์ที่คาดเดาได้ยากหรือไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น อย่างเช่นที่ผ่านมา การเกิดโรคต่างๆ ภัยพิบัติธรรมชาติ เป็นสิ่งที่ป้องกันได้ยาก จึงเกิดเป็นความเครียดเรื่องอนาคตให้เราได้

แนะแนวทางการรับมือกับความเครียดที่เกิดขึ้น

1. จัดลำดับความสำคัญในชีวิต “โฟกัสที่สิ่งที่ควบคุมได้และปล่อยวางในสิ่งที่ควบคุมไม่ได้”

แม้จะดูเป็นเรื่องที่พูดง่ายแต่เราเข้าใจดีว่ามันเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ยากมากๆด้วย แต่ความเครียดก็เป็นเรื่องที่ส่งผลไม่ดีต่อตัวเรา เพราะฉะนั้นการฝึกจิตใจของเราจึงเป็นสิ่งสำคัญมากอย่างหนึ่ง

2. ฝึกสติและผ่อนคลายจิตใจ เช่น การทำสมาธิ ฝึกการหายใจหรือการออกกำลังกาย

สติมาปัญญาเกิด หลายๆคนคงเคยได้ยินคำนี้มาก่อน สติจะเป็นตัวที่เราสามารถควบคุมได้ ไม่ใช่แค่ควบคุมร่างกายแต่ยังรวมถึงความเครียดและจิตใจได้ด้วย ส่วนการออกกำลังกายก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งกิจกรรม ที่ช่วยขจัดความเครียดได้ดีมากๆเพราะร่างกายจะหลั่งสารเอนโดฟินชนิดนึงที่ทำให้ร่างกายมีความสุข และตอนที่เราออกกำลังกายเราจะโฟกัสแต่สิ่งเดียวจนทำให้อาจเผลอลืมความเครียดไปเลยก็ได้นะคะ

3. ขอความช่วยเหลือจากใครสักคน หากความเครียดมากเกินรับมือ

พอพูดถึงการรับคำปรึกษา หลายคนก็ใช้วิธีนี้เป็นทางออกของความเครียดเชื่อว่าเกิน 80% ที่ทำแบบนี้อย่างน้อยก็ต้อง ปรึกษาคนสนิท ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน แฟน หรือครอบครัว แต่ถ้าปัญหาไหนที่เรารู้สึกว่ารับมือไม่ไหวแล้ว อีกทางเลือกหนึ่งที่แอดมินแนะนำคืออยากให้ พบแพทย์หรือนักจิตวิทยา แม้ว่าบางคนอาจจะไม่ชอบใจถ้ามีคนแนะนำให้ไปพบจิตแพทย์แต่อย่าลืมว่า เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญ เขาสามารถแนะนำบางอย่างจากการฟังเราอย่างไม่มีอคติ และให้คำแนะนำเราได้ อาจได้ทัศนคติอะไรเพิ่มมากกว่าที่เราคิดก็ได้

4. สร้างสมดุลชีวิต ให้เวลาสำหรับพักผ่อนและทำกิจกรรมที่ทำให้รู้สึกดี

คนเราทุกคนควรมีสิ่งที่ชอบทำ หรือกิจกรรมที่ทำแล้วรู้สึกดี ไม่ว่าจะรู้สึกดีมากหรือน้อยก็ตาม การแสวงหาสิ่งที่ช่วยทำให้มีความสุข จะทำให้เราคลายเครียดได้มาก อาจจะต้องจัดตารางเวลาอย่างรอบคอบมากยิ่งขึ้น เพื่อแบ่งเวลาไปทำสิ่งที่ผ่อนคลายบ้างนะคะ

สุขภาพจิตใจเป็นนายของร่างกาย อย่างที่เขาว่านั่นแหละ ไม่เชื่ออยากให้คุณลองสังเกตตัวเองดูว่า ตอนนี้ตัวคุณมีความคิดเชิงลบหรือความเครียดเกินจำเป็นอยู่หรือเปล่า และหาวิธีแก้ไขให้เร็วที่สุด ยิ่งแก้ไขได้เร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นผลดีต่อตัวคุณเอง การมีจิตใจที่แจ่มใส สุขภาพก็จะดีตามไปด้วยนะคะ